ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมันและสโมสรบาเยิร์น มิวนิค โดยเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาและกองกลางตัวรับ เขาเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1983 ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน ลาห์ม เริ่มต้นการฝึกทักษะการเป็นนักฟุตบอลอย่างจริงจังกับทีมเยาวชนของทีมบาเยิร์น มิวนิค ในปี 1995 ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุ11ขวบ เขาเติบโตและฝึกฝนทักษะการเป็นนักฟุตบอลในทีมเยาวชนของบาเยิร์น มิวนิค และด้วยการที่เขาเป็นนักเตะเยาวชนที่มีพัฒนาการและความสามารถที่โดดเด่นทำให้เขาได้รับการจับตามองจากโค้ชของทีมเยาวชนในตอนนั้น ที่หวังจะผลักดันเขาขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของบาเยิร์น มิวนิค ในอนาคตข้างหน้า
ในปี 2001 ลาห์ม ในวัย 17 ปี ก็ขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่โดยในช่วงแรก เขาลงสนามให้กับทีมสำรองของบาเยิร์น มิวนิค ก่อน และด้วยความสามารถของเขาที่มีจุดเด่นในการเติมเกมรุกและเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่ารูปร่างของเขาจะเสียเปรียบแต่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจในทุกครั้งที่ลงสนาม ทำให้เขาเริ่มได้รับความไว้วางใจมองโอกาสในการลงสนามมากขึ้น
ในปี 2002 ในเดือนพฤศจิกายน เขาลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของบาเยิร์น มิวนิค เป็นครั้งแรก ในเกมที่พบกับลองส์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม และจบลงด้วยการเสมอกัน 3-3 แต่หลังจากนั้น ลาห์ม ก็ยังคงไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามในทีมชุดใหญ่มากนัก
ในฤดูกาล 2003-2004 บาเยิร์น มิวนิค ได้ปล่อยตัวเขาไปเล่นให้กับสโมสรสตุ๊ตการ์ท ด้วยสัญญายืมตัว โดยมีระยะเวลา 2 ฤดูกาล เพื่อต้องการให้ ลาห์ม ได้มีโอกาสในการหาประสบการณ์ในการลงสนามเพิ่มมากขึ้น โดยสถิติในการลงสนามทั้งหมด 52 นัด และทำไป 2 ประตู
และหลังจากนั้นในฤดูกาล 2005-2006 ลาห์ม กลับมายัง บาเยิร์น มิวนิค อีกครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม แต่การกลับมาในช่วงแรกของเขา ลาห์ม ก็ประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บที่เข้ามารบกวน และทำให้เขาต้องพักรักษาตัวอยู่เป็นระยะเวลาที่นานถึง 5 เดือน ทำให้เขาพลาดโอกาสในการลงสนามไป จนมาในเดือนธันวาคมเขาหายกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง
ฤดูกาล 2006-2007 ลาห์ม กลับมาพร้อมกับความพร้อมในการลงสนามอย่างเต็มที่ ในเดือนสิงหาคม 2006 เขาสามารถทำประตูแรกให้กับต้นสังกัดได้ในเกมที่พบกับโบคุ่ม โดยเอาชนะมาได้ 2-1
ฤดูกาล 2007-2008 ลาห์ม ถูกเปลี่ยนตำแหน่งให้ไปเล่นในตำแหน่งแบ็กขวา เนื่องจากการเข้ามาร่วมทีมของ มาร์เซลล์ แยนเซ่น แต่เขาก็ยังสามารถปรับตัวให้เล่นในตำแหน่งใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากการที่เขาเป็นนักเตะที่ทักษะการเล่นที่ดีและสามารถเล่นได้กับแผนการเล่นได้หลายรูปแบบทำให้เขาเริ่มกลายเป็นนักเตะที่มีความสำคัญที่บาเยิร์น มิวนิคขาดไม่ได้ โดยในช่วงจบฤดูกาลนี้ เขาลงสนามในศึกบุนเดสลีกาครบทั้ง 34 นัด และก็มีกระแสข่าวออกมาอย่างมากมายถึงเรื่องการย้ายทีมของเขา แต่สุดท้ายแล้วก็จบด้วยการที่บาเยิร์น มิวนิค ได้ตัดสินใจต่อสัญญากับเขาไปอีก
ฤดูกาล 2008-2009 ลาห์ม กลายมาเป็นกำลังสำคัญภายในทีมบาเยิร์น มิวนิค ได้อย่างเต็มตัว แต่ก็ยังไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ได้ โดยในฤดูกาลนั้นเขาลงสนามไปทั้งสิ้น 28 นัดในลีก และสามารถทำประตูได้ 3 ประตู
ฤดูกาล 2009-2010 เป็นฤดูกาลแรกของการคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล และลาห์ม ก็ได้กลับไปเล่นในตำแหน่งแบ็กขวา ตามที่เขาถนัด และเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำประตูไป 1 ประตู และอีก 12 แอสซิสต์ ในทุกรายการ
ฤดูกาล 2010-2011 ลาห์ม ได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่กัปตันทีม ภายหลังจากที่ มาร์ค ฟาน บอมเมล ย้ายออกไป และในฤดูกาลนั้น เขาก็สามารถพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่พ่ายให้กับเชลซี ทำให้บาเยิร์น มิวนิคได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์
ฤดูกาล 2012-2013 เขาก็สามารถพาทีมสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้ามาได้ถึง 3 แชมป์ ได้แก่ เดเอฟเบ โพคาล ,ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และบุนเดสลีกา
ฤดูกาล 2013-2014 ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมคนใหม่ ลาห์ม ถูกเปลี่ยนให้ไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ
ลาห์ม เล่นให้กับบาร์เยิร์น มิวนิก นานถึง 13 ฤดูกาล และอยู่ในทุกความสำเร็จของบาเยิร์น มิวนิก ไม่ว่าจะเป็นแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน 8 สมัย ,เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 1 สมัย เขามีชื่อติดในทีมยอดเยี่ยมของยูฟ่ามากถึง 5 สมัย คือในปี 2006,2008,2012,2013 และ 2014
ในปี 2017 ลาห์ม ในวัย 33 ปี ออกมาประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ พร้อมกับกลายมาเป็นตำนานของวงการฟุตบอลที่หลายคนยังพูดถึงมาจนทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นเขายังมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอยู่ เขาเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จจากการเป็นนักเตะที่มาความเป็นผู้นำและเป็นมืออาชีพ เขาเป็นนักเตะที่มีไหวพริบ และมีการอ่านเกมที่เฉียบขาด และเขาเป็นนักเตะที่ไม่เคยได้รับใบแดงเลยตลอดในการค้าแข้งของเขา
ผลงานในทีมชาติ เขารับใช้ทีมชาติเยอรมันมาในทุกระดับ ก่อนที่ในปี 2004 เขาจะขึ้นมาเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ โดยในการเล่นในศึกฟุตบอลโลก ลาห์ม มีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมในสามสมัยที่เขาเล่น และในปี 2014 เขาก็มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองเป็นสมัยที่ 4 ได้สำเร็จ และเขาก็ได้ชูถ้วยแชมป์โลกในฐานะกัปตันทีมชาติเยอรมัน และในปีนั้นเองที่ ลาห์ม ได้ประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติเยอรมันเพื่อให้โอกาสนักเตะรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นในทีมชาติบ้าง โดยเขาลงสนามให้กับทีมชาติไปทั้งหมด 113 นัด มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของทีมชาติเยอรมัน