ฮาเมส โรดริเกซ มีชื่อเต็มว่า ฮาเมส ดาวิด โรดริเกซ รูบิโอ เขาเกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 1991 ที่เมืองกูกูต้า ประเทศโคลอมเบีย ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกในกับสโมสร อัล-รายยัน สโมสรชื่อดังในลีกกาตาร์ ในวัยเด็กเขาได้รับอิทธิพลการเล่นฟุตบอลมาจากพ่อของเขา โรดริเกซ เริ่มเข้าสู่อคาเดมี่ของสโมสรเอนวิกาโด้ ทีมฟุตบอลในประเทศโคลอมเบีย ตั้งแต่ตอนที่เขามีอายุเพียงแค่ 5 ขวบ และได้เริ่มการฝึกซ้อมทักษะการเล่นฟุตบอลที่นี่ ในปี 2006 เขามีโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของเอนวิกาโด้เป็นครั้งแรกในวัย 14 ปี โรดริเกซ เป็นเด็กหนุ่มที่มีความสามารถและฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ทำให้ใน 2 ปีต่อมา เขาก็ถูกดึงตัวให้ไปเล่นกับทีมแบนฟิลด์ สโมสรฟุตบอลในประเทศอาร์เจนตินา ในปี 2007 โรดริเกซกลายเป็นนักเตะอาชีพที่มีอายุน้อยที่สุดของอาร์เจนตินา ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี เมื่อเขาย้ายมาร่วมทีมกับต้นสังกัดใหม่ มันก็ไม่ใช่ปัญหาของเขาในการปรับตัว เขาสามารถปรับรูปแบบการเล่นของเขาให้เข้ากับทีมใหม่ของเขาได้อย่างรวดเร็ว และกลายมาเป็นส่วนสำคัญของทีมภายในระยะเวลาอันสั้น และพาทีมคว้าแชมป์ลีกของอาร์เจนตินาได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ ในฤดูกาล 2009-2010
และด้วยความสามารถอันโดดเด่นบวกกับฟอร์มการเล่นที่เหนือกว่านักเตะในวัยเดียวกัน ทำให้ โรดริเกซ กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่หลายทีมดังในยุโรปต่างก็ให้ความสนใจ จนมาถึงในฤดูกาล 2010-2011 สโมสรเอฟซี ปอร์โต สโมสรฟุตบอลชื่อดังของประเทศโปรตุเกส ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 7.35 ล้านยูโร และโรดริเกซ ก็ไม่ทำให้ ปอร์โต ผิดหวัง เขาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับการย้ายมาร่วมทีม เขาประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับปอร์โต ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ลีกของโปรตุเกสได้ถึง 3 สมัยซ้อนในปี 2010-2011,2011-2012และ 2012-2013 ,แชมป์เอฟเอ คัพของโปรตุเกสอีก 1 สมัย ในปี 2010-2011 และแชมป์ยูโรป้า ลีกอีก 1 สมัย ในปี 2010-2011 นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกโปรตุเกสในปี 2012 อีกด้วย
โรดริเกซ ร่วมทีมกับปอร์โตอยู่ 3 ฤดูกาล สามารถทำไปได้ 32 ประตูจากการลงสนาม 107 นัดในทุกรายการ
ในปี 2013 โรดริเกซ ออกเดินทางอีกครั้งด้วยการย้ายไปร่วมทีมกับสโมสรโมนาโก ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 45 ล้านยูโร เขาย้ายมาร่วมทีมได้เพียงหนึ่งฤดูกาล โดยทำประตูไป 9 ประตูจากการลงสนามทั้งสิ้น 34 นัด และเขายังได้รับรางวัลส่วนตัวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร ในปี 2013-2014 ,นักเตะที่สามารถทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในปี 2013-2014 และมีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมของลีกเอง ในปี 2013-2014
และในปี 2014 โรดริเกซ ย้ายไปร่วมทีมกับสโมสรยักษ์ใหญ่ของลาลีกา สเปน อย่าง เรอัล มาดริด ที่ทุ่มเงินซื้อตัวเขาด้วยราคา 75 ล้านยูโร ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกในเวลานั้น
ในฤดูกาล 2014-2015 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่เขาย้ายมาร่วมทีมกับทัพราชันชุดขาว โรดริเกซ ขึ้นมาเป็นนักเตะตัวหลักของทีม และสร้างผลงานทำประตูไปได้ถึง 17 ประตูจากการลงสนาม 46 เกมในทุกรายการ แต่ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมของเรอัล มาดริด ทำให้โรดริเกซ ไม่ค่อยมีโอกาสลงสนามเหมือนเก่า จนสุดท้ายเขาก็ถูกปล่อยตัวไปเล่นให้กับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 2 ฤดูกาล ในปี 2017
ซึ่งผลงานของเขากับบาเยิร์น มิวนิกใน 2 ฤดูกาลที่ถูกยืมตัวมานั้น ก็เรียกว่าสามารถทำได้ดีเลยทีเดียว ด้วยการทำประตูไปได้ทั้งหมด 15 ประตูจากการลงสนามไปทั้งหมด 67 นัดในทุกรายการ และสามารถมีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย ในปี 2017-2018 และ 2018-2019 และแชมป์เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัย ในปี 2018-2019 นอกจากนี้เขายังมีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกาในฤดูกาล 2017-2018 อีกด้วย
ในฤดูกาล 2019-2020 หลังหมดสัญญากับบาเยิร์น มิวนิก เขากลับไปเล่นให้กับเรอัล มาดริด อีกครั้ง ซึ่งเขาก็ยังไม่มีโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง และประกอบกับเขามีอาการบาดเจ็บมารบกวน ทำให้ในฤดูกาลนั้นเขามีโอกาสลงเล่นเพียงแค่ 5 นัด และสามารถทำประตูได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน ในเวลานั้นไม่มี โรดริเกซ อยู่ในแผนการทำทีมเลย ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต และในที่สุด ในปี 2020 เขาก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมกับสโมสรเอฟเวอร์ตัน ทีมดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มี อันเชลอตติ เป็นกุนซืออยู่ในเวลานั้น และเขาก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ รูปแบบการเล่นที่แตกต่างจากเดิมได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังสามารถคืนฟอร์มเก่งของเขากลับมาได้จนกลายมาเป็นนักเตะขวัญใจของแฟนบอลเอฟเวอร์ตันไปในที่สุด และดูเหมือนว่าเส้นทางการค้าแข้งของเขากับเอฟเวอร์ตันกำลังไปได้สวย
แต่แล้วในฤดูกาล 2021-2022 เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมคนใหม่ กลับไม่มี โรดริเกซ อยู่ในแผนการทำทีมของเขาเลย และเนื่องจากเขามีอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามในฤดูกาลนี้ จนในที่สุด ในปี 2021 โรดริเกซ ก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมกับ อัล-รายยัน ทีมฟุตบอลในลีกกาตาร์ ที่มี โลร็องต์ บล็องก์ อดีตกุนซือทีมชาติฝรั่งเศส เป็นผู้จัดการทีม
ผลงานในทีมชาติ โรดริเกซ เริ่มเข้ารับใช้ทีมชาติโคลอมเบียในชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2007 และเป็นกัปตันทีมในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในศึกชิงแชมป์โลก 2011 ในปี2011 เขามีชื่ออยู่ในทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และกลายมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมมาจนถึงปัจจุบัน